levi's story
เปิดตัวลีวายส์® 501® รุ่นสเปเชี่ยล เอดิชั่น
ลีวายส์® ไอคอนแฟชั่นยีนส์ระดับโลก เปิดตัวกางเกงยีนส์ ลีวายส์® 501® รุ่นสเปเชี่ยล เอดิชั่น “Levi’s® 501® Dark Blue Vintage & Light Blue Vintage” ผ่านแฟชั่นโชว์จากดารา นางแบบ นายแบบสุดเท่ อาทิ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ โตโน่ เดอะสตาร์ พร้อมด้วยการปรากฏตัวของสองร็อกเกอร์ระดับตำนานอย่างก้อง-สหรัถ สังคปรีชา และ โจ-จิรายุส วรรธนะสิน ในงาน ลีวายส์® 501® เมย์เดย์ 2012 ลีวายส์® ไปเมื่อเร็วๆ นี้
พรศีล บุทกัสกา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจัดจำหน่ายเครื่องแต่งกายและยีนส์ แบรนด์ลีวายส์® เปิดเผยว่า นับตั้งแต่กางเกงยีนส์ลีวายส์® 501® ตัวแรกได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1890 จนถึงวันนี้นับเป็นเวลากว่า 122 ปีแล้ว ซึ่งความคลาสสิคของยีนส์รุ่นนี้ ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นหนึ่งในแฟชั่นระดับตำนาน เห็นได้ชัดเจนจากการที่กางเกงยีนส์ลีวายส์® 501® เป็นกางเกงยีนส์ที่ผู้ชายทั่วโลกนิยมสวมใส่มากที่สุดตลอดมา และได้รับการขนานนามจากนิตยสารไทมส์ว่าเป็น สุดยอดแฟชั่นไอเท็มแห่งศตวรรษที่ 20
ทั้งนี้ ภายในงาน ลีวายส์® 501® เมย์เดย์ 2012 ลีวายส์® ได้ประกาศความเก๋าด้วยการเปิดตัวกางเกงยีนส์ลีวายส์® 501® สเปเชี่ยล เอดิชั่น ปี 2012 ที่ได้รับการสร้างสรรค์มาเพื่อเผยตัวตนของผู้ชายถึง 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ ลีวายส์® 501® ดาร์ค บลู วินเทจ (Levi’s® Dark Blue Vintage)” ยีนส์สีเข้มสุดเท่ มาพร้อมกับผ้าพันคอลีวายส์® ดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะสำหรับยีนส์ 501® เท่านั้น และ “ลีวายส์® 501® ไลท์ บลู วินเทจ (Levi’s® Light Blue Vintage)” ยีนส์สีฟอกป้ายหนังแท้สุดคลาสสิก มาพร้อมกับแบนเนอร์สุดเก๋าไม่ซ้ำใคร”
โตโน่ - ภาคิน คำวิลักศักดิ์ บอกว่า กางเกงยีนส์ ถือเป็นหนึ่งในเสื้อผ้าที่ผมชอบสวมใส่มากที่สุด เพราะเวลาที่ใส่ยีนส์จะทำให้เรารู้สึกสบาย ไม่ต้องกังวลว่าชุดจะยับหรือไม่ อีกทั้งยังใส่ได้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจของเราให้มีมากขึ้นด้วย
เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ บอกว่า “ลีวายส์® 501® ถือเป็นกางเกงยีนส์ตัวแรกในชีวิตที่มีโอกาสได้สวมใส่ เนื่องจากคุณพ่อถือเป็นหนึ่งในแฟนพันธุ์แท้ของลีวายส์® จึงแนะนำให้ได้รู้จักกับยีนส์สุดคลาสสิครุ่นนี้ ซึ่งลีวายส์® 501® นั้น ถือเป็นกางเกงยีนส์สุดเท่ที่เห็นมาตลอดตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าดาราชายดังๆใ นยุคสมัยใดก็นิยมสวมใส่กัน
กางเกงยีนส์ลีวายส์® 501® สเปเชี่ยล เอดิชั่น ปี 2012 มีให้หนุ่มๆ เลือกถึง 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ ลีวายส์® 501® ดาร์ค บลู วินเทจ (Levi’s® Dark Blue Vintage)” และ “ลีวายส์® 501® ไลท์ บลู วินเทจ (Levi’s® Light Blue Vintage)” มีจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 396 ตัว ในราคาตัวละ 7,000 บาท หนุ่มๆ ที่สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ลีวายส์® โทร.02-613-1466 หรือ Facebook: www.facebook.com/levis และ www.levisthailand.com
ที่มา:http://www.naewna.com/lady/7431
ป้ายกำกับ:
501 สเปเชี่ยล เอดิชั่น,
กางเกงยีนส์,
ลีวายส์
Levi’s 501...ตำนานที่ยังต้องปรับตัว
หลังจากที่ไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือนผมไม่ค่อยได้ใส่กางเกงสแลคทำงานอีกเลย เครื่องแต่งกายในวันปกติของผมจึงเป็นกางเกงยีนส์ลีวายส์ 501 (Levi’s 501) บวกเสื้อยืดเป็นหลัก ยีนส์ลีวายส์ที่มีอยู่ในตู้อายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 ปี ผมใส่จนแตกเนื้อทราย เก่าจนผ้านุ่มนิ่ม แต่ไม่คิดจะบริจาคให้ใครเพราะมีความผูกพันใส่มาเกือบทศวรรษ แต่พออายุมากขึ้น เส้นรอบเอวก็ขยายเองตามธรรมชาติ ผมเริ่มอึดอัดกับกางเกงยีนส์ที่ผมใส่มาตั้งแต่ศตวรรษที่แล้ว วันอาทิตย์ที่ผ่านมาจึงได้ฤกษ์ไปเดินห้างเพื่อถอยลีวายส์ 501 ล๊อตใหม่ซะที
ไปถึงห้างก็ตรงไปลองสวมลีวายส์ 501 ตามขนาดเอว แต่มันแปล่งๆ แฮะ ทำไมลีวายส์ 501 เดี๋ยวนี้มันออกจะหลุดตูดๆ หน่อยๆ แถมขากางเกงก็ออกแคบๆ แนวจิ้งเหลนไฟยังไม่รู้ เมื่อถามคนขายสาวสวยจึงทราบว่าตอนนี้กางเกงยีนส์ลีวายส์ 501 รวม ทั้งกางเกงยีนส์ลีวายส์รุ่นอื่นๆ ได้ปรับเปลี่ยนทรงเพื่อให้เข้ากับสมัยนิยมและตอบสนองกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคน รุ่นใหม่มากขึ้น...อ้าว...อย่างนี้ผมก็เป็นผู้ซื้อรุ่นเก่าละซิ
ครั้งหนึ่ง Time Magazine นิตยสารยักษ์ใหญ่ของโลกได้ยกย่องกางเกงยีนส์ลีวายส์ 501 เป็นเครื่องแต่งกายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 20 คำยกย่องที่มีต่อลีวายส์ 501 เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ของ ลีวายส์-สเตราส์ (Levis-Strauss) ซึ่งกำเนิดมาพร้อมกับยุคตื่นทองในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เมื่อกว่า 160 ปีมาแล้ว ความสำเร็จของลีวายส์-สเตราส์ในทุกวันนี้อยู่ในระดับเดียวกับเครื่องดื่ม Coke ในระดับเดียวกับมอเตอร์ไซ Harley-Davidson เป็นเหมือนสัญลักษณืที่เติบโตเคียงคู่มากับความเจริญรุ่งเรืองของประเทศสหรัฐอเมริกามาจนทุกวันนี้
ลีวายส์ 501
ในปี 1847 นาย Levi Strauss ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวเดินทางมาซานฟรานซิสโกเพื่อหวัง รวยเหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องการขุดทองคำ เขาเริ่มอาชีพที่นั้นด้วยการค้าขายอุปกรณ์ทำเหมืองอยู่หลายปี จนมาพบว่ากางเกงที่พวกนักขุดทองสวมใส่มักขาดเร็วไม่ทนทานเพราะงานเหมืองเป็น งานหนักและสกปรก เขาจึงร่วมกันนาย Jacob Davis ค้น คิดผลิตกางเกงที่มีความทนทานเป็นพิเศษเพื่อขายให้คนทำเหมืองเหล่านั้น เขาจึงใช้ผ้าใบสีน้ำตาลมาตัดเย็บกับผ้าเดนิมซึ่งทนทานมาก จากนั้นก็จะตอกหมุดเหล็กลงไปตามมุมกระเป๋าเพื่อเพิ่มความแข็งแรงเข้าไปอีก ส่วนสีของกางเกงแบบใหม่ก็ย้อมสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีชุดทำงานของคนทำเหมืองใน เวลานั้น นั่นเป็นสาเหตุให้สีน้ำเงินกลายเป็นสีมาตรฐานของกางเกงยีนส์มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนป้ายยี่ห้อของยีนส์ลีวายส์เป็นรูปม้า 2 ตัวกำลังดึงกางเกงยีนส์ที่อยู่ตรงกลาง แสดงถึงความแข็งแรงทนทานแบบสุดๆ
เชื่อกันว่าทุกวันนี้แทบทุกคนทั่วโลกไม่ว่าหญิงหรือชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ ต้องมีกางเกงยีนส์ไว้ในครอบครองอย่างน้อยคนละ 1 ตัว (ผมมี 4 ตัว) หากไม่มีเหตุการณ์ตื่นทอง โลกเราก็คงไม่รู้จักกางเกงยีนส์และ Levi Strauss ก็เป็นได้
จาก สหรัฐอเมริกากางเกงยีนส์ลีวายส์ระบาดหนักไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศสังคมนิยมในสมัยนั้น ที่แอนตี้โลกทุนนิยมและการแต่งตัวแบบอเมริกันชน (แน่นอนยีนส์ลีวายส์คือหนึ่งในสัญลักษณ์ของอเมริกาและโลกเสรีในขณะนั้น)
กางเกง ยีนส์เป็นเครื่องอุปโภคที่แปลกคือยิ่งเก่ายิ่งสวย ยิ่งเก่ายิ่งดูมีราคากว่าของใหม่เสียอีก สมัยผมมาเรียนมัธยมปลายที่กรุงเทพฯ วันเสาร์อาทิตย์มักจะได้เดินตลาดนัดสวนจตุจักรกับเพื่อนเพื่อ “จับ” ลีวายส์ 501 หรือ 701 มือสองงามๆ มาใส่ (ราคาลีวายส์มือสองในยุคนั้นตกตัวละหลายร้อยอยู่ครับ) ยิ่งถ้าจับได้ “ริมแดง” “ป้าย ®” หรือ “บิ๊ก E” จะยิ่งภูมิใจกลับมาโม้กันกับเพื่อนได้หลายวันไม่ยมเลิก
ตัวนี้บิ๊กE
ลีวายส์ไม่เคยสร้างแบนด์ลูก จะใช้คำว่า Levis นำหน้าจากนั้นจะมีชื่อรุ่นเป็นตัวเลขกำกับตามหลังเช่น Levi’s 501 Levi’ 505 เป็นต้น แต่ความสำเร็จตลอดกว่าหนึ่งศตสรรษของลีวายส์ก็ไม่ได้ประกันความเป็นอมตะของ กางเกงยีนส์ยักใหญ่นี้ เมื่อแบรนด์คู่แข่งหันไปจับตลาดกางเกงยีนส์แฟชั่นมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Calvin Klein, Donna Karen, Hugo Boss, Armani หรือ Ralph Lauren เป็นต้น ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้วยังไม่มียี่ห้อไหนเทียบลี วายส์ได้ก็ตาม ทั้งนี้เพราะลีวายส์ทุ่มงบประมาณไปกับสายการผลิตกางเกงยีนส์เพื่อความเป็น เลิศด้านคุณภาพความทนทาน ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ หันมาทำการตลาดตอบสนองความต้องการทางแฟชั่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็น Gen X และ Gen Y ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าผู้ซื้อยุค Baby Boom
ยอด ขายที่ตกลงอย่างหนักทำให้ลีวายส์ต้องดิ้นรนทุกทางทั้งปรับโครงสร้างการ บริหารใหม่ ปิดโรงงานบางแห่ง แตกแบรนด์ลูกใหม่ๆ และดำเนินกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อขยายฐานผู้ซื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ขอบคุณ :http://www.oknation.net/blog/SutinTan/2009/04/25/entry-1
ป้ายกำกับ:
Levi’s 501...ตำนานที่ยังต้องปรับตัว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)